ป้องกันภาวะสมองไหล ด้วย Talent Management ที่มีประสิทธิภาพ

Table of Contents

Talent Management คืออะไร? ในยุคที่ธุรกิจต้องแข่งขันกันอย่างรุนแรง การมีบุคลากรที่มีความสามารถและศักยภาพสูง (Talent) ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนองค์กรให้ประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตาม หลายองค์กรประสบปัญหาสมองไหล (Brain Drain) เนื่องจากไม่สามารถรักษาพนักงานที่มีศักยภาพไว้ได้ สาเหตุหลักมาจากการบริหารจัดการคนเก่ง (Talent Management) ที่ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ

Talent Management คืออะไร

Talent Management เป็นกระบวนการบริหารจัดการพนักงานที่มีศักยภาพสูงหรือที่เรียกว่า “คนเก่ง” ในองค์กร ครอบคลุมทุกขั้นตอนตั้งแต่

  1. การวางแผนกำลังคนเก่ง (Workforce Planning) เพื่อประเมินความต้องการคนเก่งในอนาคตสำหรับตำแหน่งงานที่สำคัญ
  2. การสรรหาและคัดเลือกคนเก่ง (Talent Acquisition) ผ่านกระบวนการที่มีประสิทธิภาพ เพื่อดึงดูดผู้สมัครที่มีศักยภาพสูงเข้ามาร่วมงาน
  3. การพัฒนาศักยภาพคนเก่ง (Talent Development) ด้วยการฝึกอบรม การสอนงาน การมอบหมายงานท้าทาย รวมถึงการวางแผนสายอาชีพและความก้าวหน้า
  4. การรักษาคนเก่งไว้กับองค์กร (Talent Retention) โดยสร้างแรงจูงใจและประสบการณ์ที่ดีให้กับพนักงาน เพื่อลดอัตราการลาออก

หากองค์กรสามารถบริหารจัดการคนเก่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยให้องค์กรดึงดูดและรักษาบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถและศักยภาพสูง นำไปสู่การสร้างวัฒนธรรมและบรรยากาศการทำงานที่เข้มแข็ง มีพนักงานที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มีขวัญกำลังใจที่ดี และมีความผูกพันต่อองค์กร ส่งผลให้อัตราการลาออกลดลง

นอกจากนี้ การบริหารจัดการคนเก่งอย่างมีประสิทธิภาพยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับองค์กร ด้วยการมีทรัพยากรบุคคลที่เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนกลยุทธ์และเป้าหมายขององค์กรได้อย่างมีประสิทธิผล

ทำไมหลายองค์กรถึงล้มเหลวในการทำ Talent Management

  • ขาดการกำหนดเป้าหมายและทิศทางที่ชัดเจน ถึงแม้เป้าหมายหลักของการทำ Talent Management คือการรักษา และพัฒนาบุคลากรที่มีศักยภาพและความสามารถสูงให้คงอยู่กับองค์กร เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในระยะยาว แต่เป้าหมายนี้จำเป็นต้องสอดคล้องกับกลยุทธ์และวิสัยทัศน์ขององค์กรด้วย ตัวอย่างเช่น หากองค์กรมีเป้าหมายการขยายตลาดไปยังภูมิภาคใหม่ การรักษาและพัฒนาบุคลากรที่มีความรู้ความเข้าใจในวัฒนธรรมและภาษาท้องถิ่นก็จะเป็นสิ่งสำคัญ
  • ไม่ให้ความสำคัญกับกลยุทธ์การบริหารทรัพยากรบุคคล
  • ไม่สนใจที่จะสร้าง “Employer Branding” หรือภาพลักษณ์ที่ดีในฐานะนายจ้างที่น่าสนใจ เพื่อดึงดูดและรักษาบุคลากรที่มีศักยภาพสูงให้อยู่กับองค์กร
  • กระบวนการคัดเลือกบุคลากรไม่มีความเข้มข้นและไม่มีประสิทธิภาพ ไม่สามารถค้นหาและคัดสรรบุคลากรที่มีความสามารถตรงตามที่องค์กรต้องการได้ 
  • ไม่นำข้อมูลหรือ Data Analytics เข้ามาประยุกต์ใช้ในการวิเคราะห์พฤติกรรม ความสามารถ และผลการปฏิบัติงานของบุคลากร ทำให้การบริหารจัดการและวางแผนกำลังคนขาดประสิทธิภาพ

5 เทคนิคการตั้งเป้าหมายและวางกลยุทธ์ Talent Management ให้ประสบความสำเร็จ

1. กำหนดเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของการบริหารจัดการคนเก่งให้ชัดเจน

    เป้าหมายควรสอดคล้องกับทิศทางกลยุทธ์และเป้าหมายหลักขององค์กร เช่น หากองค์กรมุ่งเน้นการเติบโตอย่างรวดเร็วในตลาด อาจตั้งเป้าหมายในการรักษาพนักงานที่มีศักยภาพสูงไว้ เพื่อสร้างความ ได้เปรียบในการแข่งขันและรองรับการขยายธุรกิจหรือหากองค์กรต้องการสร้างความยั่งยืนให้ธุรกิจในระยะยาว อาจตั้งเป้าหมายในการพัฒนาผู้สืบทอดตำแหน่งงานสำคัญในอนาคต เพื่อให้มีการถ่ายทอดองค์ความรู้และประสบการณ์อย่างต่อเนื่อง

    การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนยังช่วยให้องค์กรสามารถวัดและประเมินผลสำเร็จของแผนงานได้อย่างเป็นรูปธรรม เช่น กำหนดเป้าหมายอัตราการรักษาพนักงานเก่งไว้ที่ 90% ภายในระยะเวลา 3 ปี หรือกำหนดให้มีผู้สืบทอดตำแหน่งงานสำคัญอย่างน้อย 2 คนต่อ 1 ตำแหน่ง เป็นต้น ทั้งนี้ การตั้งเป้าหมายที่ท้าทายแต่เป็นไปได้จะช่วยสร้างแรงจูงใจและทิศทางที่ชัดเจนให้กับการดำเนินงาน

    การกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของการบริหารจัดการคนเก่งอย่างมีประสิทธิผล เพราะจะทำให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าใจทิศทางและเป้าหมายเดียวกัน สามารถวางแผนกลยุทธ์และดำเนินการได้อย่างสอดคล้องและบูรณาการกัน

    2. นิยามคำว่า “Talent” ขององค์กร ต้องพิจารณาจากคุณสมบัติ 

      การนิยาม “คนเก่ง” หรือ “Talent” ในบริบทขององค์กรนั้นเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะทำให้ทุกฝ่ายมีความเข้าใจตรงกันว่าองค์กรกำลังมุ่งเน้นการบริหารจัดการพนักงานกลุ่มใด ควรพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้

      • คุณสมบัติ (Qualifications) เช่น ระดับการศึกษา ประสบการณ์ทำงาน ความรู้ความสามารถเฉพาะด้าน เป็นต้น
      • ผลงาน (Performance) โดยพิจารณาจากผลการปฏิบัติงานที่โดดเด่นเป็นที่ประจักษ์ การได้รับรางวัลหรือการยกย่อง
      • ศักยภาพ (Potential) ในการเติบโตและก้าวสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น จากการประเมินความสามารถและแนวโน้มการพัฒนา
      • สมรรถนะหลัก (Core Competencies) ที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ พันธกิจ และค่านิยมขององค์กร
      • สมรรถนะเฉพาะ (Technical/Functional Competencies) ที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงานตามพันธกิจหลักขององค์กร

      การนิยามคนเก่งโดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้จะทำให้องค์กรสามารถระบุและคัดเลือกพนักงานที่มีคุณสมบัติตรงตามความต้องการได้อย่างชัดเจนและตรงประเด็น ส่งผลให้การบริหารจัดการ การพัฒนาและการรักษาคนเก่งกลุ่มนี้ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

      นอกจากนี้ องค์กรควรมีการทบทวนนิยามคนเก่งเป็นระยะ เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของกลยุทธ์ธุรกิจและสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งนี้เพื่อให้การบริหารจัดการคนเก่งตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรได้อย่างต่อเนื่อง

      3. มุ่งเน้นกลยุทธ์ที่จะสร้างผลกระทบ (Impact) ต่อการบริหารจัดการคนเก่ง ได้แก่ 

        • การสร้างภาพลักษณ์นายจ้างหรือองค์กรที่ดึงดูดพนักงาน (Employer Branding) มีความสำคัญต่อการดึงดูดคนเก่งเข้ามาร่วมงานกับองค์กร ควรเริ่มดำเนินการตั้งแต่การสร้างภาพลักษณ์ที่โดดเด่น แตกต่างและน่าสนใจ อาทิ เป็นองค์กรที่มีนวัตกรรม มีวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดกว้าง หรือให้โอกาสในการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพอย่างไม่สิ้นสุด

          สื่อสารภาพลักษณ์ดังกล่าวผ่านช่องทางต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เช่น เว็บไซต์ สื่อสังคมออนไลน์ การออกบูธงานแสดงสินค้า เป็นต้น

          สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้สมัครงาน ตั้งแต่ขั้นตอนการสมัครงาน การสัมภาษณ์ จนถึงการเริ่มงาน เพื่อส่งมอบคุณค่าและภาพลักษณ์ขององค์กรได้อย่างแท้จริง
        • ปรับปรุงกระบวนการสรรหาและคัดเลือกให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
          นำเทคโนโลยีมาช่วยในการคัดกรองผู้สมัครเบื้องต้น เพื่อคัดเลือกผู้มีคุณสมบัติเหมาะสมได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น

          พัฒนาวิธีการสัมภาษณ์และประเมินที่หลากหลาย เพื่อประเมินได้ครอบคลุมทั้งความรู้ ทักษะ และศักยภาพของผู้สมัคร

          กำหนดเกณฑ์การคัดเลือกที่ชัดเจน และมีการทบทวนอย่างสม่ำเสมอตามความต้องการคนเก่งของแต่ละหน่วยงาน
        • นำข้อมูลและเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการวิเคราะห์และบริหารจัดการพนักงาน เช่น ระบบบริหารจัดการสมรรถนะ (Talent Management System) จะช่วยให้องค์กรสามารถจัดการและพัฒนาคนเก่งได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยการวิเคราะห์ประวัติ ข้อมูลสมรรถนะ  ศักยภาพพนักงานรายบุคคล และกำหนดแนวทางพัฒนารายบุคคลที่เหมาะสมตามเส้นทางการเติบโตในสายอาชีพ

          สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้องค์กรสามารถดึงดูด สรรหา คัดเลือก และบริหารจัดการคนเก่งได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

        4. ให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพของคนเก่งอย่างต่อเนื่อง

        การให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพของคนเก่งอย่างต่อเนื่องนั้นมีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับองค์กร เพราะจะช่วยสร้างแรงจูงใจและรักษาบุคลากรที่มีความสามารถสูงไว้กับองค์กรในระยะยาว โดยมีแนวทางในการดำเนินการดังต่อไปนี้

          • จัดให้มีการฝึกอบรมและพัฒนาสมรรถนะที่จำเป็นอย่างสม่ำเสมอ ทั้งในรูปแบบการฝึกอบรมในห้องเรียน การเรียนรู้แบบออนไลน์ หรือการสอนงานจากผู้นำหรือหัวหน้างาน เพื่อเพิ่มพูนความรู้ ทักษะ และสมรรถนะที่สอดคล้องกับบทบาทหน้าที่และพันธกิจขององค์กร
          • มอบหมายงานท้าทายที่เหมาะสมเพื่อกระตุ้นการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพ งานท้าทายจะทำให้พนักงานได้ออกจากพื้นที่ Comfort Zone ได้ลองผิดลองถูก และเกิดการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ถือเป็นการเปิดโอกาสในการพัฒนาศักยภาพอย่างแท้จริง
          • วางแผนเส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพอย่างเหมาะสม โดยกำหนดเป้าหมายและแนวทางการพัฒนาที่ชัดเจน พร้อมมอบหมายงานหรือโครงการสำคัญให้รับผิดชอบเพื่อเสริมสร้างประสบการณ์และนำไปสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นในอนาคต
          • มอบโอกาสในการเรียนรู้และสร้างเครือข่ายผ่านการสับเปลี่ยนงาน การหมุนเวียนงาน หรือการทำงานเป็นทีม ช่วยให้พนักงานมองเห็นภาพรวมขององค์กร และสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์พร้อมรับโอกาสใหม่ ๆ
          • เสริมแรงด้วยการให้รางวัลและการยกย่องชมเชย เมื่อพนักงานประสบความสำเร็จในการพัฒนาตนเอง สร้างผลงานดีเด่น หรือมีความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน เพื่อแสดงการให้คุณค่าและจูงใจให้พนักงานเกิดความตั้งใจและทุ่มเทในการทำงานต่อไป

          การลงทุนในการพัฒนาคนเก่งอย่างจริงจังและต่อเนื่องจะส่งผลให้พนักงานกลุ่มนี้รู้สึกได้รับการตอบสนองความต้องการ มีความพึงพอใจ มีแรงบันดาลใจในการทำงาน อีกทั้งยังมีโอกาสในการเติบโตและความก้าวหน้าในองค์กร ส่งผลให้พนักงานมีความผูกพันและตัดสินใจอยู่กับองค์กรต่อไปในระยะยาว

          5. ประเมินและปรับปรุงกระบวนการบริหารจัดการคนเก่งอย่างสม่ำเสมอ

            การประเมินและปรับปรุงกระบวนการบริหารจัดการคนเก่งอย่างสม่ำเสมอนั้นมีความสำคัญมาก เพราะจะทำให้องค์กรสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกได้อย่างทันท่วงที รวมถึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการคนเก่งให้ดียิ่งขึ้น

            • กำหนดให้มีการประเมินผลกระบวนการบริหารจัดการคนเก่งเป็นประจำ อาจจะทุก 6 เดือน หรือ 1 ปี โดยพิจารณาจากผลการดำเนินงานที่ผ่านมาว่าบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้หรือไม่ มีจุดบกพร่อง ข้อผิดพลาด หรือปัญหาอุปสรรคใดที่ต้องปรับปรุงแก้ไข
            • สำรวจและรวบรวม Feedback จากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้อง ทั้งผู้บริหารระดับสูง หัวหน้างาน Talents และผู้เชี่ยวชาญด้านHR เพื่อให้ได้มุมมองและข้อคิดเห็นที่หลากหลายนำมาประกอบการประเมินผล
            • วิเคราะห์แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ เทคโนโลยี และการแข่งขันที่อาจส่งผลกระทบต่อความต้องการด้าน Talents ในอนาคต เพื่อปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องและสามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นได้ทัน
            • พิจารณาการปรับเปลี่ยนกระบวนการและแนวปฏิบัติที่ใช้อยู่ในปัจจุบันให้มีความเหมาะสมและทันสมัยมากขึ้น โดยอาจนำเครื่องมือ เทคโนโลยี หรือนวัตกรรมใหม่ ๆ มาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
            • วางแผนจัดสรรทรัพยากรที่เหมาะสมในการนำการปรับปรุงไปปฏิบัติ ทั้งงบประมาณ บุคลากร ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ตลอดจนความพร้อมขององค์กรในทุกๆ ด้าน

            การประเมินและปรับปรุงอย่างต่อเนื่องจะทำให้องค์กรมีกระบวนการบริหารจัดการคนเก่งที่ทันสมัย สามารถตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดในทุกช่วงเวลา สร้างความพร้อมในการรับมือและให้ความสำคัญกับประเด็นยุทธศาสตร์ด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์ที่ทันต่อสถานการณ์ปัจจุบันตลอดเวลา

            การบริหารจัดการคนเก่งอย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยให้องค์กรสามารถดึงดูด รักษา และพัฒนาบุคลากรที่มีศักยภาพสูงได้อย่างยั่งยืน ซึ่งจะนำไปสู่ความสำเร็จและความได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจ หากองค์กรของคุณต้องการสร้างกระบวนการบริหารจัดการคนเก่งที่เหมาะสมกับความต้องการและบริบทขององค์กร สามารถติดต่อเราเพื่อขอคำปรึกษาและออกแบบกระบวนการ Talent Management ที่ตรงจุดได้

            หากคุณสนใจทำ Talent Management ในองค์กร ต้องการสร้างกระบวนการค้นหา พัฒนา และรักษาพนักงานที่มีศักยภาพสูงในองค์กร ผ่านการ Tailor-made ที่เหมาะสมกับความต้องการและความคาดหวังของพนักงาน ลูกค้า องค์กร และสภาพแวดล้อมขององค์กรแต่ละแห่ง เป็นสูตรสำเร็จที่สอดคล้องกับองค์กรของคุณ คลิกเลย!

            ติดต่อรับคำปรึกษา

            หากท่านมีความสนใจและต้องการข้อมูลเพิ่มเติมในหลักสูตรของทางบริษัท Beyond Training ท่านสามารถกรอกข้อมูลเพื่อรับรายละเอียดเพิ่มเติมในแบบฟอร์มด้านล่างนี้ ทางบริษัทขอขอบคุณที่ให้ความสนใจ เราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ให้บริการฝึกอบรมกับท่าน

            ติดต่อรับคำปรึกษา

            หากท่านมีความสนใจและต้องการข้อมูลเพิ่มเติมในหลักสูตรของทางบริษัท Beyond Training ท่านสามารถกรอกข้อมูลเพื่อรับรายละเอียดเพิ่มเติมในแบบฟอร์มด้านล่างนี้ ทางบริษัทขอขอบคุณที่ให้ความสนใจ เราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ให้บริการฝึกอบรมกับท่าน

            ติดต่อรับคำปรึกษา

            หากท่านมีความสนใจและต้องการข้อมูลเพิ่มเติมในหลักสูตรของทางบริษัท Beyond Training ท่านสามารถกรอกข้อมูลเพื่อรับรายละเอียดเพิ่มเติมในแบบฟอร์มด้านล่างนี้ ทางบริษัทขอขอบคุณที่ให้ความสนใจ เราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ให้บริการฝึกอบรมกับท่าน

            ติดต่อรับคำปรึกษา

            หากท่านมีความสนใจและต้องการข้อมูลเพิ่มเติมในหลักสูตรของทางบริษัท Beyond Training ท่านสามารถกรอกข้อมูลเพื่อรับรายละเอียดเพิ่มเติมในแบบฟอร์มด้านล่างนี้ ทางบริษัทขอขอบคุณที่ให้ความสนใจ เราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ให้บริการฝึกอบรมกับท่าน

            สนใจเป็นส่วนหนึ่งของทีมบียอนด์ เทรนนิ่ง

                หากคุณมีความสนใจและต้องการเป็นส่วนหนึ่งกับเรา คุณสามารถกรอกข้อมูลด้านล่าง เพื่อให้ทางทีมงานพิจารณาแล้วตอบกลับคุณโดยไวที่สุด

            ติดต่อรับคำปรึกษา

            หากท่านมีความสนใจและต้องการข้อมูลเพิ่มเติมในหลักสูตรของทางบริษัท Beyond Training ท่านสามารถกรอกข้อมูลเพื่อรับรายละเอียดเพิ่มเติมในแบบฟอร์มด้านล่างนี้ ทางบริษัทขอขอบคุณที่ให้ความสนใจ เราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ให้บริการฝึกอบรมกับท่าน