โลกการทำงานในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยี AI เข้ามา disrupt หลายอุตสาหกรรมทำให้การ “เลิกจ้าง” กลายเป็นเรื่องธรรมดา การพัฒนาตัวเองให้เท่าทันโลกการทำงานยุคดิจิทัล AIยกระดับสู่คนทำงานแถวหน้าที่องค์กรขาดไม่ได้ จึงไม่ใช่ทางเลือกแต่เป็นทางรอดเดียว! และนี่คือ 5 วิธีพัฒนาตัวเองสู่คนทำงานยุคใหม่ที่ AI ไม่สามารถแทนที่
- โลกไม่หยุดนิ่งทักษะของคุณต้องวิ่งไปข้างหน้าเท่านั้น เร่งเรียนรู้เทคฯ AI การเขียนโค้ด ฯลฯ
- รอแต่คำสั่งอย่างเดียวไม่ได้ ต้องขยับสู่การเป็นผู้นำที่คิด วิเคราะห์ วางแผนกลยุทธ์เป็น
- ทำงานออกมาดีทั้งที อย่าเป็นความลับที่ดีที่สุดในองค์กร จงให้งานพูดแทนคุณ
- หมั่นปรับปรุงเนื้องาน กลบจุดด้อย พัฒนาต่อยอดจุดเด่นยอมรับทุกคำติชม
- คนทำงานต้องไหวตัวให้ทัน ปรับตัวให้เร็ว ใช้ทักษะที่พัฒนาเอาชนะความผันผวนให้ได้
สถานการณ์ AI ในไทย
ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าในปี 2567 การใช้งาน AI ในประเทศไทยจะขยายตัวมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งภาครัฐและเอกชน AI จะถูกนำไปใช้ในหลากหลายวงการ ไม่ว่าจะเป็น การเกษตร การแพทย์ การศึกษา และภาคธุรกิจ ผู้เชี่ยวชาญยังแนะนำให้คนทำงานยุคใหม่ แทนที่จะกลัว AI ควรพลิกมุมมองเปิดใจเรียนรู้และใช้ประโยชน์ดีกว่า เพียงแต่ควรเน้นย้ำเรื่องการใช้อย่างมีจริยธรรมและรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
ต่อจากนี้ AI จะกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเรา ไม่ว่าจะในฐานะผู้ใช้งาน ผู้ได้รับผลกระทบ หรือผู้สร้างสรรค์ผลงาน คนทำงานรุ่นใหม่จึงต้องเร่งเรียนรู้ Upskills Reskills ตัวเอง ใช้ประโยชน์จาก Al ให้ได้มากที่สุดและมีประสิทธิภาพ เพราะ AI ไม่ใช่กระแสชั่วคราวที่ผ่านมาแล้วก็ล้มหาย แต่จะเป็นเทคโนโลยีที่อยู่กับเราตลอดไป
Beyond Training จึงถอดรหัสจากบทความ 5 Reasons People Get Laid Off จาก hbr.org เพื่อสะท้อนแง่มุมของ AI Disruption และวิธีการเตรียมตัว ติดอาวุธเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ต้องทำอย่างไรบ้าง
5 กลยุทธ์สู่คนทำงานยุคใหม่ที่ AI ไม่สามารถแทนที่
1. เรียนรู้ตลอดชีพ
การตัดสินใจเรียนรู้ตลอดชีวิต อาจจะดูยิ่งใหญ่ แต่เชื่อเถอะว่าเมื่อโลกไม่หยุดนิ่ง ทักษะของคุณต้องวิ่งไปข้างหน้าเท่านั้น การที่คิดว่ารู้ทุกอย่างแล้ว เปรียบเสมือนหลุมพรางดักคุณให้ความรู้หยุดอยู่กับที่ ไม่สามารถปรับตัวได้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง ลองเริ่มจากการเปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ เช่น การใช้งาน AI ให้กลายเป็น Co-pilot การเขียนโค้ด หรือการบริหารโครงการ เป็นต้น
2. ทำงานเชิงรุก
รอแต่คำสั่งอย่างเดียวไม่ได้ ต้องขยับสู่การเป็นผู้นำที่คิด วิเคราะห์ วางแผนกลยุทธ์ ขับเคลื่อนผลงานผ่านทีมและลงมือปฏิบัติจริงจนเกิดผลลัพธ์เป็นที่ประจักษ์เพื่อสร้างความแตกต่างระหว่างคุณต่อผู้นำคนอื่น ๆ รวมทั้ง AI
3. อย่าเป็นคนในความลับ แต่ทุกคนต้องยอมรับ
ทำงานออกมาดีทั้งที อย่าเก็บเป็นความลับที่ดีที่สุดในองค์กร เพราะเสี่ยงถูกมองข้าม เจ้านาย ผู้บริหารหรือเพื่อนร่วมงานไม่รู้ว่าคุณกำลังทำอะไร พลาดโอกาสในการทำงานสำคัญ ๆ โอกาสเติบโตในอาชีพก็ลดลงด้วย จงให้งานของคุณพูดแทนคุณและให้แน่ใจว่าจะถูกรับฟังจากผู้บริหาร รวมถึงเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ แต่จะงานพูดด้วยตนเองอย่างเดียวในยุคนี้คงไม่พอ คุณต้องกล้าที่จะสื่อสาร นำเสนอผลงานของคุณด้วยความภูมิใจ
4. ปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
ผลลัพธ์สำคัญแล้ว แต่การปรับปรุงเนื้องาน กลบจุดด้อย พัฒนาต่อยอดจุดเด่น ยอมรับทุกคำติชม จะช่วยให้คุณสามารถพิชิตเป้าหมายที่ยากและท้าทายขึ้นได้เรื่อย ๆ ไม่หยุดอยู่กับที่ ทำให้หัวหน้าหรือผู้บริหารเห็นว่า ต่อให้องค์กรต้องเจอกับวิกฤตอีกกี่ครั้ง คุณจะเป็นที่ไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่ ล้มแล้วพร้อมลุกสู้อยู่ตลอดเวลา
5. ปรับตัวและเอาชนะ
World Economic Forum องค์กรที่มีชื่อเสียงในเวทีระดับโลกด้านการดำเนินกิจกรรมเพื่อเสนอแนะทิศทางในการกำหนดนโยบายด้านเศรษฐกิจ สังคมและการพัฒนาระหว่างประเทศ ผ่านเครือข่ายผู้นำภาคการเมือง ธุรกิจ และภาคประชาสังคม ระบุ! ในปี 2023 คนจะถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยี AI หรือระบบอัตโนมัติ การปรับตัวจึงมีความสำคัญมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน คนทำงานจึงต้องไหวตัวให้ทัน ปรับตัวให้เร็ว ใช้ทักษะที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง เอาชนะคลื่นความผันผวนให้ได้
หากคุณคือคนหนึ่งที่ต้องการยกระดับทักษะเพื่อเอาชนะ AI หลักสูตรการเพิ่ม Productivity จาก Beyond Training ออกแบบเพื่อช่วยให้คุณพัฒนาทักษะและรับรองว่าคุณจะนำหน้าอยู่เสมอ
สนใจหลักสูตร คลิก!