'เล้ง MFEC' เทคนิคซื้อใจลูกน้อง” ด้วยศาสตร์ความช้า

ความช้าไม่ใช่การถอยหลัง แต่คือการสร้างคุณภาพของการมอง การคิด และการเชื่อมโยงกับผู้คนอย่างแท้จริง และนั่นเองคือกุญแจสำคัญของการ “ซื้อใจลูกน้อง” ในยุคที่ความไว้วางใจคือทุนที่มีค่ามากที่สุด

รายการ Leadership Secrets EP.นี้ เราจะพาผู้อ่านไปฟังเสียงจริงจากคนที่ผ่านสนามจริงของการบริหารธุรกิจองค์กรขนาดใหญ่ คุณเล้งไม่เพียงแต่เป็นผู้บริหาร MFEC ที่คร่ำหวอดในวงการไอทีและเทคโนโลยี แต่ยังเป็นผู้นำที่เชื่อในพลังของการ “ทำสิ่งตรงข้ามกับสิ่งที่โลกกำลังบีบให้ทำ” ในวันที่ทุกอย่างต้องการความรวดเร็ว เศรษฐกิจที่ชะลอตัวกดดันให้องค์กรเร่งปรับตัว พนักงานถูกคาดหวังให้ทำงานทันทีทันใด คำว่า “ช้า” อาจฟังดูเป็นคำต้องห้าม แต่สำหรับคุณเล้ง นี่กลับเป็น “ศาสตร์” ที่ผู้นำยุคใหม่ควรฝึกให้เป็น

คุณเล้ง ศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร – ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFEC

Slow is the new fast

คุณเล้งหยิบแนวคิดจากหนังสือ Thinking, Fast and Slow ของ Daniel Kahneman มาขยายความถึงสองระบบการคิดของมนุษย์ “หัวหน้าที่ดี ต้องรู้ว่าเมื่อไรควรใช้ความเร็วของ System 1 และเมื่อไรควรชะลอ เพื่อให้ System 2 ทำงาน การตัดสินใจสำคัญในองค์กรไม่ควรถูกปล่อยให้เร็วเกินไป”

System 1: คิดแบบอัตโนมัติ รวดเร็ว เกิดจากสัญชาตญาณและประสบการณ์สะสม เหมาะกับการตัดสินใจทันที แต่ก็มักเต็มไปด้วยอคติและความผิดพลาดจากอารมณ์
System 2: คิดอย่างมีสติ ใช้เวลา ใช้สมาธิ และพลังงานในการกลั่นกรอง เหมาะกับการตัดสินใจที่ซับซ้อน และมองเห็นผลลัพธ์ระยะยาว

“หัวหน้าที่ดี ไม่ใช่คนที่ตัดสินใจเร็วเสมอไป แต่คือคนที่รู้ว่าเมื่อไรควรช้า เพื่อให้การตัดสินใจนั้นมั่นคงและถูกต้องที่สุด”

เมื่อโลกหมุนเร็ว คนจึงเสพติดความง่าย

หนึ่งใน Insight ที่สะกิดใจมากที่สุดคือการที่คุณเล้งพูดถึง “การเสพติดความง่าย” ของคนยุคนี้ โซเชียลมีเดีย คลิปสั้น หรือคอนเทนต์ bite-sized ทำให้เราเคยชินกับการได้ข้อมูลเร็วๆ แต่ตื้นเขิน

เราอ่านโพสต์สั้นๆ แล้วคิดว่าเข้าใจทั้งเรื่อง
เราฟังพอดแคสต์ยาว 10 นาที แล้วคิดว่าตัวเองเรียนรู้เสร็จสิ้น
เราดู TikTok แล้วรู้สึกเหมือน “ได้ความรู้” ทั้งที่จริงๆ แล้ว ยังไม่ได้ลงลึกไปไหน

ผลลัพธ์คือสมองถูกหล่อหลอมให้ทำงานบน System 1 ตลอดเวลา และความสามารถในการ “นั่งนิ่งๆ เพื่อใช้ System 2” ก็ค่อยๆ หายไป “การเรียนรู้ที่แท้จริง ไม่ใช่การเสพข้อมูล แต่คือการให้เวลาตัวเองเข้าใจจนเกิดการเปลี่ยนแปลง”

Slow Leadership: ผู้นำที่กล้าหยุด

ถ้าเรามองความช้าในเชิง “ศาสตร์การนำ” จะเห็นว่า Slow Leadership มีองค์ประกอบสำคัญ 3 อย่าง นี่ไม่ใช่การทำงานช้า แต่คือการรู้จัก “หยุดให้ถูกจังหวะ” เพื่อสร้างคุณภาพในทุกก้าวที่ก้าวไป

ความสงบ (Calmness): ผู้นำที่ไม่ตื่นตระหนกตามสถานการณ์ คือหลักยึดให้ทีมมั่นใจ
ความอดทน (Patience): ไม่รีบเร่งจนพลาดโอกาสในการเรียนรู้ หรือไม่ฟังทีมให้ครบถ้วน
การไตร่ตรอง (Deliberation): ตัดสินใจด้วยการคิดรอบด้าน มองทั้งผลลัพธ์สั้นและยาว

Storytelling Moment: เหตุการณ์ที่สอนให้ “ช้า”

คุณเล้งเล่าอย่างออกรสถึงช่วงที่องค์กรเผชิญวิกฤติ เมื่อทีมงานทุกคนต่างคาดหวังให้เขาตัดสินใจเร็วที่สุด เพราะทุกนาทีมีค่า แต่สิ่งที่เขาทำคือ “ขอเวลา” เพื่อฟังทีม วิเคราะห์ และทบทวนข้อมูลอย่างรอบด้าน

“การช้าของผู้นำตอนนั้น ไม่ใช่การชะลอการแก้ปัญหา แต่คือการสร้างความมั่นใจให้ทีมว่า ทุกการตัดสินใจที่ออกมามีเหตุผลรองรับ ไม่ใช่แค่สัญชาตญาณหรืออารมณ์” ผลลัพธ์คือทีมเดินไปด้วยกันอย่างมั่นใจ เพราะรู้ว่าผู้นำไม่ได้ตัดสินใจลวกๆ

ถอดเคล็ดลับจากผู้นำ ฉบับ 'เล้ง MFEC'

ความช้าไม่ใช่ความล้าหลัง แต่คือการสร้าง “คุณภาพ” ให้การคิด การฟัง และการตัดสินใจ
ซื้อใจลูกน้องด้วยเวลา การใส่ใจและสังเกตต้องอาศัยความตั้งใจ ไม่สามารถเร่งรีบ
ฝึก System 2 Thinking เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของการคิดเร็วที่เต็มไปด้วยอคติและความผิดพลาด
ต้านกระแสโลกที่เร่งรีบ โดยการสร้างพื้นที่นิ่งให้ตัวเองและทีม เพื่อมองสิ่งสำคัญจริงๆ
Slow Leadership = Calm + Patience + Deliberation สามพลังที่ทำให้ผู้นำแข็งแกร่งและน่าเชื่อถือ

“การช้าอย่างมีสติ คือการเร่งความสำเร็จอย่างยั่งยืน”

- คุณเล้ง CEO MFEC

ท้ายที่สุด ปรัชญา “The Beauty of Slow” ที่คุณเล้งแบ่งปัน คือบทเรียนสำหรับทุกคน ไม่ใช่เฉพาะผู้นำองค์กร เพราะในโลกที่เร่งรีบเกินไป การหยุดช้าๆ คือการเร่งความสำเร็จให้ยั่งยืนที่สุด